วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Permanent Court of Arbitration:ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร

ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (Permanent Court of Arbitration)ในการระงับข้อพิพาทในทางกฎหมาย (Legal Settlement) คือ คณะลูกขุนที่ได้รับการรับรองในระดับนานาชาติ ซึ่งพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นอนุญาโตตุลาการศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับการจัดตั้งขึ้นมาโดยอนุสัญญาเพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี ที่ได้รับการยอมรับและแก้ไขปรับปรุงโดยที่ประชุมสันติภาพกรุงเฮกปี ค.ศ. 1899 และปี ค.ศ. 1907




คณะอนุญาโตตุลาการที่ประจำอยู่ประกอบด้วยลูกขุนจำนวน 4 คนซึ่งมีความสามารถทางกฎหมายอย่างยอดเยี่ยมที่ได้รับการแต่งตั้งจากภาคีผู้ลงนามแต่ละชาติ คู่กรณีพิพาทแต่ละฝ่ายจะทำการเลือกลูกขุนอีกฝ่ายละ 2 คน ซึ่งในสองคนนี้จะเป็นคนสัญชาติตนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น จากนั้นลูกขุนจำนวน 4 คนที่ได้รับการคัดเลือกจากคู่กรณีพิพาทดังกล่าว ก็จะทำการตัดเลือกลูกขุนคนที่ 5 ให้มาทำหน้าที่เป็นประธานผู้ชี้ขาด จากที่กล่าวมานี้แสดงให้เห็นว่า ศาลอนุญาโตตุลาการนี้มิได้เป็นศาลประจำแต่อย่างใด แต่เป็นคณะลูกขุนที่ศาลเลือกมาเท่านั้นเอง


คู่กรณีพิพาทจะดำเนินการดังนี้:
1) ค้นหาประเด็นเรื่องที่พิพาทกัน
2) ขีดวงจำกัดอำนาจหน้าที่ของศาล และ
3) ตกลงกันว่าคำตัดสินของศาลที่กระทำภายในขอบเขตจำกัดเหล่านี้จะได้รับการยอมรับว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย



ความสำคัญ คุณค่าสำคัญของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร มิใช่อยู่ที่เขตอำนาจของศาลฯ แต่อยู่ที่เป็นศาลที่มีอยู่ก่อนเกิดข้อพิพาท และเป็นกลไกที่พร้อมจะให้ใช้ตัดสินข้อพิพาทใด ๆ ได้ทันที อย่างไรก็ตามภาคีผู้ลงนามอนุสัญญาว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธีฉบับนี้ ไม่มีพันธกรณีว่าจะต้องใช้บุคลากรและวิธีดำเนินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรนี้แต่อย่างใด คู่กรณีพิพาทจะตัดสินใจเองเป็นกรณี ๆ ไป เพียงแต่พฤติกรรมของคู่กรณีพิพาทจะถูกควบคุมโดยสนธิสัญญาอนุญาโตตุลาการที่มีอยู่ก่อนหรือโดยข้อกำหนดที่ว่าด้วยอนุญาโตตุลาการที่มีอยู่ในสนธิสัญญาอย่างอื่น



สนธิสัญญาอนุญาโตตุลาการส่วนใหญ่จะเอาอย่างสนธิสัญญาอังกฤษ ฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1903 ที่กำหนดไว้ว่า หากมีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับลักษณะทางกฎหมายและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการตีความสนธิสัญญา ก็ให้นำไปให้ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรเป็นผู้พิจารณา

ในสนธิสัญญาอนุญาโตตุลาการส่วนใหญ่ ปกติจะไม่ข้องแวะเรื่องต่อไปนี้
1) ผลประโยชน์ที่สำคัญยิ่ง
2) เอกราชหรือเกียรติภูมิของคู่กรณี
3) ผลประโยชน์ของฝ่ายที่สาม

ยกตัวอย่างของทางปฏิบัติของสหรัฐอเมริกา วุฒิสภาของสหรัฐถือว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งที่จะให้มีการอนุญาโตตุลาการภายใต้สนธิสัญญาทั่วไปนั้น เป็นสนธิสัญญาอีกประเภทที่จะต้องขอความเห็นชอบจากวุฒิสภาเสียก่อน ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรกรุงเฮก เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในช่วงแรก ๆ ที่จะสร้างระบบการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธีด้วยวิธีทางการทางนิติศาสตร์ และเป็นศาลนำร่องให้แก่ ศาลยุติธรรมถาวรระหว่างประเทศ (Permanent Court of International  Justice =PCIJ)ระหว่างยุคสันนิบาตชาติ   และเป็นศาลนำร่องให้แก่ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice=ICJ) ของสหประชาชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม